แชร์หน้านี้ให้เพื่อนๆ

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ค้าขายไม่ดี ต้องลองวิธีนี้มีคนการันตีมานัดต่อนัดแล้ว

หากใครที่ค้าขายไม่ดี วันนี้อัยยะข่าวขอเสนอวิธีสวดมนต์คาถาเสริมทรัพย์ จากหลวงพ่อปาน ซึ่งจากคนจำนวนมากยืนยันว่าใช้ได้ผลดีจริงๆ นอกจากนี้ยังมีบทความหนึ่งจาก facebook พระเครื่อง พระบูชา เครื่องราง ของขลัง เหรียญ รูปหล่อ สมเด็จ พระกรุ กล่าวถึงบทสวดมนต์นี้ ขอบอกไว้ก่อนว่าไม่ลองไม่รู้


**พระคาถาเสริมทรัพย์ ของ หลวงพ่อ ปาน (คาถาปัจเจกโพธิ์ เฉพาะ)***
ตั้งนะโม ๓ จบ
พุทธะ มะ อะ อุ นะโมพุทธายะ (ว่า ๙ จบ)
วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
มานีมานะ พุทธัสสะ สวาโหม(อันนี้ว่า๓จบ)
คำอธิบาย
สวดก่อนนอน๓จบ ตื่นตอนเช้า๓จบ ใส่บาตรขันข้าว๑จบ
แล้วรำลึกถึงคุณ พระรัตนะตรัย และ พระปัจเจกโพธิอย่าได้เว้น นอกนั้น
ว่างเมื่อไหร่ท่องเมื่อนั้นเกิดโภคทรัพย์มากมาย
เรื่องเก่าเล่าใหม่ มีเรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อปานมาฝากครับ ซึ่งเนื่องด้วยคาถาปัจจักโพธิ์
เรื่องมีอยู่ว่าที่อำเภอดำเนินสดวก มีคนชื่อตาแจ่ม เปาเล้ง แกเป็นคน ฐานะยากจน อาชีพแกก็ได้แต่ปลูกพริกขาย เพราะความยากจนทำให้
แกเป็นหนี้สินเขาถึง 20,000 บาท เงินในสมัยนั้นก็มากโขอยู่(สมัยหลวงพ่อปาน)
ตาแจ่มไม่รู้ทำอย่างไรดี ำม่ว่าทำมาหากินเท่าไหร่ขนาดไหนก็ไม่มีทีท่าว่าจะมาใช้คืนเขาได้ แกเลิยหันหน้าเข้าหาพระหาเจ้ากับเขาบ้าง
ตาแจ่มตัดสินใจไปเรียนคาถาพระปัจจักโพธิ์และเมื่อได้ไปแล้วแกก็ไม่ได้ตั้งใจทำมาหากินเหมือนเมื่อก่อน วันๆ นั่งท่องคาถาอย่างเดียวทั้งวันทั้งคืน ลูกเมียเองก็เข้าใจและเห็นใจประกอบกับเมียแกเป็นคนดีด้วย จึงไม่เรียกใช้ไหว้วานอะไรผัวทั้งสิ้น
พอถึงคราวหน้าพริกออกดอกสวนพริกของแกกลับดูโปร่งๆ ไม่หนาทึบ เหมือนของคนอื่น เห็นท่าแกจะขายพริกได้ไม่กี่บาท แต่พอถึงวันที่เก็บเข้าจริงๆ กลับได้กองใหญ่โตเท่าของคนอื่น ยิ่งพอมาถึงตอนขาย พริกของคนอื่นชั่งได้เท่าไหร่ ของตาแจ่มได้มากกว่าเป็นเท่าตัว ทั้งๆที่ดูปริมาณพริกแล้วก็เท่ากัน จนคนซื้อพริกหาว่าตาแจ่มโกงเอาทรายยัดใส่ไปในพริก ก็เลยพิสูจน์กันโดยนำตะแกรงมาร่อนพริกแต่น่าแปลกที่ไม่มีทรายออกมาจากพริกเลิย ก็เลิยต้องซื้อกันไปทั้งอย่างนั้น
แค่นั้นยังไม่พอสวนพริกของคนอื่นเขาเก็บได้แค่ 2-3 ครั้งก็เก็บหมดแล้ว แต่ของตาแจ่มนี่สิได้ถึง 5-6 ครั้ง ถึงจะเก็บหมด และคนซื้อก็ให้ราคาพริกของตาแจ่มสูงกว่าเจ้าอื่นอีกจนตาแจ่มมีเงินไปใช้หนี้เขา แถมยังเหลือเก็บไว้ใช้ ทำบุญ ใช้กิน และทำทุนต่อไปได้อีก
ทีนี้ตาแจ่มทำได้ผลก็เลิยไปบอกกล่าวให้นายบ้วนลูกเขยทำตาม นายบ้วนเองก็ดันนับถือศาสนาคริสต์ แต่เมื่อเห็นว่าพ่อตาทำแล้วรวยทำมาหากินคล่องก็เลิยทำตามบ้าง แต่ไม่กล้วให้ใครรู้มาก เพราะกลัวชาวคริสต์ด้วยกันจะรังเกียจ จึงต้องแอบทำในบ้าน และก็ได้ผลแบบเดียวกับตาแจ่ม ทีนี้แหละเรื่องราวถึงได้รู้กันทั่วทั้งหมู่ ชาวไทยและชาวคริสต์ในละแวกนั้น
ต่อมาไม่นานตาแจ่มอยากบวชลูกชาย และก็จัดงานแต่งให้ลูกสาว ตามความนิยมไม่ว่าจะเป็นที่ใดสมัยไหนเมื่อเอ่ยว่าจะบวชเป็นจะต้องจัดงานกันให้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้คนอื่นๆเขา
คราวนี้ตาแจ่มทั้งวานบวชงานแต่งมะรุมมะตุ้มกันใหญ่ คราวนี้ต้องใช้เงินมากทั้งสองงานแต่ตาแจ่มยังไม่มีเงินจะจัดเลย จะหยิบยืมเขาก็ไม่อยากเป็นหนี้สิน เคราห์ดีที่ลูกเขยมาเสนอตัวว่าจะให้ยืม แต่ถ้าได้กำไรจากการจัดงาน ทั้งสองผมก็ขอแค่ทุน แต่ถ้าขาดทุนก็ไม่เป็นไร ผมไม่ว่าไม่ต้องคืนก็ได้ ลูกเขยของตาแจ่มนี้ดีจริงๆ
ทีนี้ตาแจ่มก็ต้องทำเหมือนทุกๆครั้ง แต่โดยปกติแล้วตาแจ้มก็ทำอยู่ทุกวันแต่ไม่เคร่งครัดมากเพราะไม่ขัดสนเรื่องเงินทอง แต่มาคราวนี้เดือดร้อนจำต้องตั้งใจมากกว่าทุกๆวัน
แล้วก็ดันมาเกิดเรื่อง วันหนึ่งเกิดมีเทียนเล่มหนึ่งที่ตาแจ่มใช้เป็นอุปกรณ์ทำคาถาเกิดไม่ไหม้ลงไป ซึ่งธรรมดาเทียนเล่มหนึ่งความยาวเท่านี้จุดไม่เกินสองชั่วโมงก็ต้องไหม้หมด แต่มาวันนี้ตาแจ่มจุดเทียนเล่มนี้วันทั้งวันก็ยังไม่มีทีถ้าว่าจะไหม่หมดไป ซึ่งเป็นเรื่อง มหัศจรรย์
คืนนั้นปรากฏว่าตาแจ่มนอนไม่หลับเหมือนปกติทุกวัน แต่พอหลับไปกลับฝันถึงเงินใลละร้อยเต็มไปหมด ซึ่งเขาว่ากันว่าคาถาบทนี้ ถ้าผู้ปฎิบัติลองได้ฝันถึงแบงก์ร้อยละก็หมายความว่าขึ้นเต็มที่ เขาถือเป็นนิมิต ห้ามนึกกันเอาเอง
พอถึงเวลาเก็บพริกตาแจ่มกลับได้เงินมากกว่าที่ต้องการ ทำเอาได้จัดงานสมใจตาแจ่มไป ผู้ใดที่หวังเป็นอย่างตาแจ่มนี้ ให้ อยู่ในศิลธรรม หมั่นทำ บุญตักบาตร หรือ หมั่นทำสมาธิ และ ทำคาถานี้รับรองต้องเป็นเหมือนอย่างตาแจ่มแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น